เมื่อผมลบแท็ก (Tags) ทั้งหมดในบทความ SEO จะเกิดอะไรขึ้น
- My Boost SEO
- 18 ก.พ.
- ยาว 2 นาที
ระบบการใส่แท็ก (Tags) ตอนทำบทความ เป็นสิ่งที่เราทำไปเพื่อบอกว่าบทความนั้นคืออะไร ผู้อ่านสามารถกดแท็กเพื่อไปอ่านบทความที่อยู่ในแท็กเดียวกันได้ แต่การไม่ควบคุมปริมาณแต่แรกอาจทำให้เกิดผลเสียได้ วันนี้ My Boost SEO จะมาทำการทดลองว่าบทความที่ไม่มีแท็กจะยังทำหน้าที่ได้ดีอยู่หรือไม่
Key Takeaways:
การลบแท็ก (Tags) ออกจากบทความ SEO ไม่ส่งผลเสียต่อการจัดอันดับในระยะยาว
ควรลบแท็กอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรลบทั้งหมดในครั้งเดียว เพื่อป้องกันผลกระทบรุนแรง
หลังลบแท็ก อันดับจะตกในช่วงแรกประมาณ 1 เดือน แต่หลังจากนั้นจะกลับมาดีขึ้นกว่าเดิม
การมีหรือไม่มีแท็กไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการจัดอันดับ แต่คุณภาพของเนื้อหาสำคัญกว่า
หากต้องการใช้แท็ก ควรวางแผนและควบคุมจำนวนให้ชัดเจน ไม่ควรสร้างแท็กใหม่ไปเรื่อยๆ
เว็บไซต์ที่มีโครงสร้างเป็นระเบียบช่วยให้ Google จัดอันดับได้ดีขึ้น
แท็ก (Tags) ในบทความ SEO คืออะไร
แท็ก (Tags) คือ การใส่ Keywords เพื่อบอกว่าบทความ SEO นั้น ๆ เกี่ยวกับอะไร ส่วนใหญ่เราจะเห็น Tags นี้ที่ด้านล่างสุดของบทความ หรืออยู่ด้านบนสุดเท่านั้น โดยใน 1 บทความนิยมใส่ Tags ประมาณ 2-3 คำ เช่น เมื่อคุณเขียนบทความเกี่ยวกับการสอนทำ SEO จะมีแท็กว่า “SEO” และ “ทำ SEO” เป็นต้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำกันมาอย่างยาวนาน
บทความที่เกี่ยวข้อง : จริงไหมที่การทำ SEO ต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือน
ทำไมผมจึงสงสัยว่า Tags อาจไม่มีประโยชน์ แถมยังมีผลเสีย
ผมคิดว่าการทำบทความ SEO มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้อ่านได้คำตอบที่ต้องการ การใส่แท็กอาจมีประโยชน์หากผู้อ่านต้องการอ่านบทความที่อยู่ในแท็กเดียวกัน แต่เนื่องจากการแบ่งหมวดหมู่บทความมักมาในรูปแบบ Category อยู่แล้ว ยังไม่รวมเรื่องของปริมาณแท็กที่จะงอกเงยขึ้นมามากขึ้นเรื่อย ๆ ตามบทความที่เขียน เพราะบางทีเราเขียนบทความหัวข้อใหม่ ก็อาจจำเป็นต้องมีแท็กเพิ่มครับ
หากไม่ได้รับการควบคุมจำนวนแท็ก เวลาผ่านไป 1 ปี ปริมาณแท็กอาจมีมากเกินไป ส่งผลต่อระเบียบของโครงสร้างเว็บไซต์ที่วุ่นวายสุดจะทน ประเด็นนี้จะทำให้ไม่ดีต่อการเก็บข้อมูลของ Google หรือเปล่า ถ้าผมถอดออกในระยะยาวจะเป็นผลดี หรือผลบวกกันแน่ จึงเป็นที่มาของการลบแท็กออกจากบทความทั้งหมดที่มีกว่า 100 บทความภายในเวลา 3 วันครับ มาดูกันว่าตลอดกระบวนการเป็นอย่างไรบ้างในการทดลองครั้งนี้
1.การวางแผนลบแท็กให้รอบคอบ
เนื่องด้วยมีบทความ SEO ในระบบของเว็บไซต์มากกว่า 100 บทความ ถ้าหากผมทำการลบแท็ก (Tags) ออกไปในวันเดียว ถามว่าผมทำได้เลยไหม คำตอบคือได้ครับ แต่จะส่งผลร้ายแรงต่อเว็บไซต์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงขนาดนี้ จะทำให้ Google สงสัยในเว็บไซต์คุณ ก่อนที่เว็บจะถูกนำไปตรวจสอบ ซึ่งอาจไปจากผลการค้นหา 2-3 เดือนเลยก็ได้ครับ
ด้วยเหตุนี้ผมจึงตัดสินใจขยายเวลาทดสอบเป็นการลบแท็กให้หมดใน 3 วันอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง พร้อมกับอาศัยช่วงเวลาที่มีการอัปเดตใหญ่ของ Google ซึ่งช่วงนั้นอันดับของเว็บไซต์จะสวิงไม่คงที่ และไม่แน่นอนอยู่แล้ว จึงเป็นโอกาสดีที่ผมจะลองครับ มาดูในข้อต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร
2.ลบแท็กแล้วเว็บไม่เสถียร
แม้จะเคลื่อนไหวในช่วงที่ผมคิดว่าเหมาะสมแล้ว แต่แน่นอนว่าต้องทำใจล่วงหน้า เพราะหลังจากลบแท็กออกหมดแล้วใน 3 วัน ปรากฏว่าเว็บไซต์อันดับตกอย่างชัดเจน อย่างที่คาดไว้ครับ Google ดึงเว็บไซต์ให้อันดับต่ำลงเพื่อตรวจสอบแอ็กชันในครั้งนี้ โดยอันดับที่ดร็อปลงนั้นกินเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นจะเปลี่ยนทุกอย่างครับ
3.อันดับที่สูงขึ้น และการเติบโตในเชิงบวกแบบก้าวกระโดด
หลังจากผ่านไป 1 เดือนในการทดสอบ พบว่าเว็บไซต์ถูกนำมาจัดอันดับปกติ มากไปกว่านั้นอันดับที่กลับมาก็สูงขึ้น อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าเดิม ไม่เพียงแค่นั้นบทความบางบทความก็ถูกนำมาจัดอันดับในหน้าแรกจากที่ไม่ติดอันดับเลย ซึ่งผมคาดว่ามีความเป็นไปได้เกิดขึ้น 2 ส่วนพร้อมกันครับ คือ การทำให้แผนผังเว็บไซต์เป็นระเบียบขึ้นในช่วงที่ Google กำลังทำการจัดอันดับด้วยอัลกอริทึมใหม่ อีกส่วนคือ อัลกอริทึมของ Google ตัวใหม่ใส่ใจในเว็บไซต์ใหม่ ๆ มากขึ้น ไม่ได้ยึดติดเพียงแค่เว็บไซต์ใหญ่ ๆ เท่านั้น ทำให้เว็บดังกล่าวได้อันดับที่ดีขึ้นนั่นเอง
สรุปผลการทดลอง และความรู้สึก
จากผลการทดลองผมค่อนข้างเห็นชัดเจนว่าบทความ SEO ที่ไม่ได้ตั้งแท็ก (Tags) เอาไว้ ยังสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี แถมเว็บไซต์ที่เป็นระเบียบยังช่วยให้การติดอันดับเป็นไปอย่างไหลลื่น ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าการที่คุณยังทำแท็กอยู่จะเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะครับ แต่ผมจะสรุปง่าย ๆ ว่าโครงสร้างบางอย่างอาจไม่ได้มีผลต่อคุณภาพของบทความ สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะมีแท็กหรือไม่ การจะติดอันดับได้นั้นขึ้นอยู่กับว่าบทความนั้นมีเนื้อหาที่ดีหรือไม่ในการตอบคำถามให้ผู้อ่าน และ Google เองก็กำลังเก็บข้อมูลในส่วนนั้น มากกว่าต้องมากังวลในเรื่องยิบย่อยครับ
คำแนะนำหากคุณจะทำแท็ก (Tags) ต่อไป
คำแนะนำเดียวที่ผมมี คือ “วางแผนให้ดี และควบคุมปริมาณ” จากภาพคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญตอนมี Tags และไม่มี Tags ดังนั้น คุณต้องจำกัดแท็ก Keywords ให้ชัดเจนว่าถ้าเขียนบทความในหัวข้อเรื่องนี้ควรมีแท็กที่ใช้ร่วมกัน 2-3 แท็กเท่านั้น เป็นต้น ยิ่งถ้าคุณทำงานเป็นทีม และมีนักเขียนที่ต้องลงบทความเอง คุณไม่ควรให้อิสระในการสร้างแท็กใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ ครับ
สรุป
มีโครงสร้างบทความหลายโครงสร้างที่ในวงการยึดเพื่อนำมาทำบทความ SEO ครับ แท็กถือเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน แต่การจะมีหรือไม่มีไม่ได้ส่งผลต่อการจัดอันดับใด ๆ เพราะสุดท้ายแล้วเนื้อหาที่คุณภาพสูงอย่างชัดเจนต่างหาก ที่ทำหน้าที่ในการช่วยให้เว็บไซต์คุณติดอันดับ
เราจะทดลองอะไรต่อไป
การทำบทความ SEO จาก Trending ช่วยให้เว็บไซต์ใหม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากจริงหรือไม่ ความเร็วในการทำบทความจากกระแสยังได้ผลอยู่ไหม ในยุคที่การแข่งขันสูงในวงการ SEO ผมได้ทดลองกับหลายบทความด้วยเว็บไซต์ที่มีอายุไม่ถึง 1 ปี และได้ผลลัพธ์มาเรียบร้อยแล้ว สามารถติดตามได้ในบทความการทดลองต่อไปได้เลยครับ
การทดลองอื่น ๆ :
ทีมของเรา My Boost SEO เป็นทีม SEO ที่มีความชำนาญในการทำ Modern SEO หรือ SEO สมัยใหม่ โดยยึดจากหลักการล่าสุดที่ Google สนใจ เน้นการทำงานที่มีคุณค่า มั่นคงแข็งแรงระยะยาว หากคุณสนใจให้ทีมของเราดูแล SEO ให้กับคุณ สามารถติดต่อสอบถามบริการทำ SEO กับเราได้นะครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมรับทำ SEO : https://www.myboostseo.com/seo-service
Facebook : https://www.facebook.com/myboostseo/
Line OA : https://lin.ee/8TQc4nQ
Medium : https://medium.com/@myboostseo
